ทำไมธุรกิจจำเป็นต้องมี Website ในเมื่อใช้ Social ฟรีๆ ได้นี่นะ
มาตอบแล้วจ้ากับคำถามยอดฮิต! ที่เวลาพี่ยุ้ยไปบรรยาย SME, E-Commerce ที่ไหน หรือตอนไปพบลูกค้า ก็มักจะถูกถามคำถามนี้ว่า
“เว็บไซต์ หรือ เพจ Facebook เลือกอะไรดีกว่ากัน”
“ธุรกิจมี เพจ Facebook อยู่แล้ว ใช้ฟรีด้วย
ทำไมต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายจ้างทำ เว็บไซต์ ด้วยล่ะ”
ตอบข้อแรกก่อน
เว็บไซต์ และ เพจ Facebook ดีทั้งคู่ค่ะ รวมถึง social และ platform อื่นๆ ด้วยนะ คือทุกตัวมีทั้งข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกัน อยู่ที่การนำไปใช้มากกว่า ว่าเราหวังผลอะไร
หากเป็นน้องๆ นักเรียน นักศึกษา ธุรกิจขนาดเล็ก หรือธุรกิจส่วนตัวที่เพิ่งเริ่มต้น งบน้อย ยังอยู่ในช่วงค้นหา ช่วงทดลอง พี่ยุ้ยก็จะแนะนำว่า อะไรฟรีได้ จัดค่ะ อะไรเจ็บตัวน้อยที่สุด เราก็เซฟๆ นะคะ อย่าเพิ่งฮึกเหิม
แต่ถ้าทำธุรกิจจริงจัง หวังผลระยะยาว เราไปต่อกันค่ะ คำตอบอยู่ในข้อสอง
ตอบข้อที่สอง
ถ้าคุณจริงจังกับธุรกิจ และธุรกิจของคุณมีความเกี่ยวข้องกับผู้คนบนโลกออนไลน์ คำตอบคือ ธุรกิจควรจะต้องมีเว็บไซต์ ยืนหนึ่งไว้ก่อน เป็นศูนย์กลางข้อมูลของธุรกิจ แล้วใช้ เพจ Facebook หรือ platform อื่น ในการขยายช่องทาง ทั้งการสื่อสารกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด ขยายฐานลูกค้า ทำโฆษณา และการตลาดออนไลน์อื่นๆ
ข้อดีของ Facebook คือ สามารถแชร์ให้คนจำนวนมากๆ เห็นได้
เว็บไซต์ เราติดปุ่มให้กดแชร์ ได้หลายแพลตฟอร์ม แต่การกดแชร์จริงๆ อาจจะไม่เท่ากับในเฟส
ทีเด็ด! การเข้าถึงคนจำนวนมากของเว็บไซต์ คือ Google ค่ะ
ด้านความน่าเชื่อถือ
สำหรับคุณแล้ว ระหว่างเว็บไซต์บริษัท กับ เพจร้านค้า คุณให้น้ำหนักไปทางไหนมากกว่ากันคะ
สิ่งที่จะแนะนำ คือ
การทำเว็บไซต์ คู่ไปกับ Facebook Page หรือ แพลตฟอร์มตัวอื่นที่ตรงโจทย์ business ของคุณค่ะ
ถ้าคุณจะยิง Facebook Ads
ให้ได้เปรียบกว่าคนอื่นๆ คุณจำเป็นต้องติดตั้งโค้ด Facebook Pixel บนเว็บไซต์ (ต้องเว็บไซต์เท่านั้น) จะช่วยให้คุณ ยิง ads ได้แม่นยำยิ่งขึ้น ต้นทุนค่าโฆษณาก็จะถูกลงถ้าคุณจะยิง Google Ads
อันนี้สบายมาก คุณสามารถกำหนด และออกแบบ Landing Page (หน้าปลายทางที่คลิกมาจากโฆษณา) บนเว็บไซต์ได้อย่างอิสระ เหมาะสมกับแต่ละแคมเปญได้เลยล่ะเคล็ดลับ! คุณสามารถทำเว็บไซต์เป็น Sale Page แค่หน้าเดียว ก็ขายของได้แล้วนะ
หรือว่าเราอยากจะสร้างเว็บไซต์เป็น resume, profile, portfolios ใช้เพื่อสะสมผลงาน ประวัติการทำงาน เขียนบทความที่มีประโยชน์ คือทำให้ดูเป็นมืออาชีพไปเลย รู้มั้ยว่ามันเป็น reference ให้เราได้อย่างดีเลยนะ… พี่ยุ้ยเองได้ทั้งงานประจำจากบริษัทดีๆ และงานฟรีแลนซ์ที่ติดต่อเข้ามา ก็เพราะเว็บไซต์ของตัวเองนี่ล่ะ ใช้เงินแค่หลักร้อย หลักพันต้นๆ ต่อปีเท่านั้นเอง
เดี๋ยวนี้มีเครื่องมือ/โปรแกรมใช้งานง่าย ไม่ต้องเขียนโค้ด เราก็สามารถทำเว็บไซต์เองได้ เยอะเลยค่ะ ที่จะขอแนะนำก็คือ WordPress ใช้คู่กับ Elementor
- วิดีโอ : วิธีใช้ WordPress Elementor ออกแบบเว็บ ตามใจชอบ – ตัวฟรี ง่าย เร็ว!
- ดูอย่างเร็ว ข้ามไปที่นาที 15:50 ได้เลยค่ะ
แล้วไม่ต้องกลัวเลยว่า platform ใดๆ จะสลายหรือเสื่อมความนิยมไป เพราะเว็บไซต์ของเรายังคงอยู่ เนื้อหาและฐานข้อมูลทุกอย่างยังอยู่กับเรา และเราก็เลือกใช้เครื่องมือที่ออกแบบเฉพาะสำหรับเว็บของเราได้เองด้วย
ที่จริงยังมีอีกหลายเหตุผลนะคะ แต่เหตุผลสำคัญที่สุด คือ
“เว็บไซต์เป็นสินทรัพย์บนโลกออนไลน์
ที่เราสามารถเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ 100%”
เว็บไซต์มีความสำคัญแค่ไหน
บางคนมองว่าเป็น “ค่าใช้จ่าย” จึงให้ความสำคัญน้อย และพยายามลดหรือตัดค่าใช้จ่าย
บางคนมองว่าเป็น “การลงทุน” จึงให้ความสำคัญมาก และตั้งใจทำอย่างดี
มันออกดอก ออกผล ให้เราได้ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว
งบประมาณจ้างทำเว็บไซต์
มีตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักล้าน หากเราทำเว็บไซต์ได้ด้วยตัวเอง เราสามารถสร้างเว็บดีๆ ด้วยงบไม่แรงได้ เพียงแค่เลือกเครื่องมือให้เหมาะสม
ระหว่างเว็บธรรมดา กับ เว็บคุณภาพดี
ให้ผลลัพธ์แตกต่างกันมากค่ะ ยิ่งเป็นเว็บไซต์ที่ถูกวางกลยุทธ์เอาไว้ด้วยแล้ว พวกเราคิดว่า… มันจะให้ผลลัพธ์ออกมาแบบไหน และคุ้มค่ากับการลงทุนมั้ยคะ
ผลประโยชน์ที่ตัวยุ้ยเองได้รับจากการเป็นเจ้าของเว็บไซต์
(อันนี้แชร์ให้ฟัง เพื่อให้เห็นภาพ ไม่มีเจตนาโชว์ว้าวนะคะ)
- พี่ยุ้ยเป็นเจ้าของ webmonsterlab.com ปั้นมาตั้งแต่ปลายปี 2013
- เว็บนี้ทำเองคนเดียวทั้งหมดค่ะ มูลค่าแตะ 7 หลัก ใน 2 ปีแรก
- ปีแรกมีคนมาขอซื้อ 2 ราย ให้ราคา 6 หลัก (ยุ้ยไม่ได้ขายค่ะ เพราะว่าอยากทำเองต่อ)
- ใช้เป็นสินทรัพย์ยื่นกู้รถยนต์ ราคาล้านกว่าบาท (เพิ่งรู้ว่าได้ด้วยเหรอ ก็ตอนกู้รถนี่ล่ะค่ะ) ใช้หน้า sales page ร่วมกับหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของเว็บไซต์ค่ะ (ก็คือเราเป็นเจ้าของธุรกิจโดยมีหน้าร้านคือเว็บไซต์ค่ะ)
- และยังมีงานจ้าง รายได้อื่น และโอกาสดีๆ ที่มาจากเว็บนี้มากมาย เช่น ยุ้ยได้รับเชิญจาก Microsoft (Thailand) เป็นวิทยากรพิเศษ และได้รับเชิญจาก Google ให้เข้าร่วมเป็น Google Partner โครงการพิเศษ ได้ไปเรียน Google Ads กับทีมงาน Google โดยตรง (สนุกมาก) – ทั้ง 2 บริษัทนี้ เจอยุ้ยจาก Google Search แล้วเข้ามาดูเว็บไซต์ Webmonster Lab ของยุ้ย ที่ได้ทรงลงตัวกับโปรเจคพอดี ก็เลยติดต่อยุ้ยมาค่ะ
เงินลงทุนทำเว็บไซต์
Webmonster Lab
ค่าหนังสือ WordPress
ราคา 169 บาท ตลอดชีพ
ต้องขอบคุณผู้เขียน คุณอนุชา ลีวรกุล มากๆ เลยค่ะ เขียนเข้าใจง่ายมาก (เป็นอาจารย์ WordPress ท่านแรกของ อ.ยุ้ย)
Hosting + Domain Name
6 ปีแรก ราคา 728 บาท ต่อปี
อัพเกรด Hosting เมื่อปีที่ 7 เป็น SSD ราคา 1,123 บาท ต่อปี (คุ้มมาก แรง เร็วจี๋)
WordPress Theme
6 ปีแรก ใช้ฟรีมาตลอด
ปีที่ 7 อยากเพิ่มความเท่ก็เลยไปซื้อธีม Premium มา ในราคา 1,829 บาท License ตลอดชีพ
ใช่แล้ว… ใช้งบเท่านี้เองค่ะ หลักพันต้นๆ ต่อปี (จ่ายค่าเน็ตมือถือ ยังมากกว่าเลย ว่ามั้ยคะ)
“สิ่งที่ยุ้ยลงทุนมาก คือ เวลา และ ความรู้“
เนื่องจากเราเป็นฟรีแลนซ์ ไม่ได้มีเงินเยอะ… อะไรทำเองได้ ต้องทำเองค่ะ เว้นแต่จะมีบางอย่างที่เราไม่ถนัดจริงๆ ก็ใช้บริการมืออาชีพ การจ้างให้เค้าทำให้จะประหยัดต้นทุนได้มากกว่า ทั้งเงิน เวลา และพลังงานของเรา
เว็บไซต์มันก็คือหน้าร้าน คือสำนักงานบริษัท นี่ล่ะค่ะ
เพียงแต่มันไม่ได้สร้างด้วยอิฐ หิน ปูน ทราย เพราะมันอยู่ในรูปแบบดิจิทัล ข้อดีคือ ต้นทุนต่ำกว่า การเช่าร้านในห้างดัง หรือการสร้างสำนักงานออฟฟิศบนตึกสูง เราสามารถใช้เว็บไซต์ทำงานแทนเรา ขายของแทนเรา นำเสนอสินค้าและบริการ รวมถึงรับเรื่องลูกค้าแทนเราได้ทั่วโลก ที่ไหนก็ได้ที่มีอินเทอร์เน็ต ตลอด 24 ชั่วโมง โดยที่เราเป็นเจ้าของตัวจริง 100%
อย่างพี่ยุ้ยเขียนบทความที่พวกเรากำลังอ่านอยู่นี้ ก็สบายละไม่ต้องพูดเรื่องเดิมซ้ำๆ เป็นพันเป็นหมื่นครั้ง ใครเข้ามาก็อ่านได้เลย ได้รับสาระครบเหมือนกัน… นี่คือการใช้เว็บไซต์ให้มันทำงานแทนเรา
(อ้อ หากเราใช้บริการรับทำเว็บไซต์ ให้ดูเงื่อนไขนะคะ ว่าสิทธิ์ความเป็นเจ้าของอยู่ที่ใคร)
รูปภาพ : https://about.google/brand-resource-center/brand-elements
และเพราะเราใช้ Google ค้นหาสิ่งที่ต้องการ
ยุคนี้ใครๆ ก็เล่นเน็ต เล่นมือถือ ใช้ชีวิตอยู่บนโลกออนไลน์ จะมาทั้งตัวหรือเฉียดๆ ก็ยังต้องมา และเกือบทุกคน ใช้ Google ค้นหาสิ่งที่ต้องการ หากเราไม่มีเว็บไซต์ก็คงยากมากที่ใครๆ จะหาเราเจอ อย่างตอนนี้ที่หลายคนกำลังอ่านบทความนี้อยู่ ส่วนใหญ่มาจาก ใช้ keyword ค้นหาใน Google แล้วพี่เกิ้นก็พามาที่นี่ใช่มั้ยคะ แบบนี้เราเรียกว่า “เว็บไซต์มี SEO ที่ดี” เป็นการทำการตลาดดิจิทัลอย่างหนึ่ง
หรือตาม link มาจากแชร์ หน้าเว็บนี้ก็เป็น Friendly URL (link ภาษามนุษย์ที่อ่านเข้าใจง่าย และ google ก็ชอบด้วย) โดยมีพื้นที่เป็นของตัวเอง อยากให้ user เข้ามาเจอหน้านี้แล้วให้ทำอะไรต่อ หรืออยากให้ไปต่อหน้าไหนอีก – เว็บไซต์ของเราเอง เราจัดการได้ค่ะ
webmonsterlab.com ติดอันดับหนึ่งและหน้าแรก Google อยู่หลายคำ เช่น สอนลง wordpress, ติดตั้ง wordpress, wordpress ecommerce ตัวไหนดี, สอนทำเว็บ จุฬา-สามย่าน อะไรแบบนี้ ที่เราไม่ต้องใช้เงินซื้อโฆษณาจากที่ไหนเลย แม้แต่ Google Ads (พี่ยุ้ยแทรก link หน้าปลายทางไว้ใน keyword นะคะ และอ้างอิงอันดับ ปี 2015 จนถึงวันที่เขียนบทความนี้ 13/01/2020)
“ติดตั้ง wordpress”
ผลการค้นหา Google
“ติดตั้ง wordpress”
ผลการค้นหารูปภาพ Google
ปล. ด้วย กูเกิล อัลกอริทึม ทำให้แต่ละเครื่องอาจจะได้ผลการค้นหาแตกต่างกันนะ และไม่มีอะไรที่ถาวร แต่จะหยุดเรื่อง Google ไว้ที่ตรงนี้ก่อน เพราะถ้าเล่าแล้วเดี๋ยวยาวมั่กมาก
ยังไงแล้ว Website + SEO ก็ไม่ใช่คำตอบของทั้งหมดนะคะ
ยังเหมือนกับทุกธุรกิจที่ต้องทำการตลาด ทำโฆษณา โปรโมท ประชาสัมพันธ์กันอยู่เสมอ เลือกใช้เลือกเข้าให้ถูกที่ถูกทาง แล้วความดีงามจะเกิดขึ้นค่ะ
ก็ประมาณนี้ค่ะ พอจะมองเห็นภาพกันแล้วใช่มั้ยคะว่า “ทำไมธุรกิจ จำเป็นต้องมีเว็บไซต์”
Tips : การทำเว็บไซต์ ควรตั้งใจทำให้ดี ให้มีคุณภาพ
จะสามารถสร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือให้กับองค์กรหรือตัวบุคคลได้
บทความที่เกี่ยวข้อง :
“Content is King” จริงไหม
อธิบายหัวใจหลักที่สำคัญสำหรับการสร้างเว็บไซต์การออกแบบเว็บไซต์ “ที่ดี” ไม่ใช่ “แค่มี”
คือความใส่ใจต่อผู้เข้าชมเว็บไซต์/ลูกค้า มีผลต่อความน่าเชื่อถือของธุรกิจ
คอร์สตัวต่อตัว – เวิร์คช็อป
WordPress Elementor สำหรับมือใหม่ออกแบบเว็บไซต์บริษัท ให้ธุรกิจน่าเชื่อถือ
เรียนรู้การดูแลเว็บไซต์ที่ถูกต้อง
บทความ/รูปภาพ :
Webmonster Lab | Yui Kanchita